กระผมขอหยิบยกเรื่องราวของ คุณนัท มาให้ได้ลองอ่านกันนะครับ
เมื่อ ประมาณปี 2544 ซึ่งก็ถือว่านานเหมือนกัน แต่ก็ยังพอมีกากใยสารัตถประโยชน์นำมาเล่าให้ฟังได้บ้าง เพื่อนผมคนหนึ่ง ทำแท้ง เพราะแฟนไปมีแฟนใหม่ เลยประชดชีวิตด้วยการทำแท้ง แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมานั่นก็คือ ผลกรรม ที่ตามมา ทุกคืนจะนอนไม่หลับ เหมือนมีเด็กมานอนข้างๆ บางวันก็รู้สึกมีเด็กมายืนร้องไห้อยู่ปลายเท้า จากชีวิตที่ดูเรียบง่าย ทำอะไรก็เหมือนติดขัดไปหมด ทำงานก็ต้องออก เพราะไม่สบายใจ รู้สึกหงุดหงิด มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนข้างๆ ห้องบอกว่า “เมื่อคืนเด็กที่ไหนมาหา ได้ยินเสียงเด็ก!!!” สิ่งที่เธอได้รับหลังจากที่ผมไม่เจอเธอหลายปีนั่นก็คือ สามวันดี สี่วันไข้ หาเงินมาได้ก็เอาไปรักษาหมด ไปหาหมอที่ไหน หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร!! แต่ในใจผมคิดอยู่เสมอว่า นี้คงเป็นผลกรรมที่ได้ทำเอาไว้ แต่เธอไม่เคยยอมรับว่านี้คือผลกรรม จนกระทั่งมีพระกรรมฐานทักว่า “เพื่อนของโยมเคยทำแท้งมาทำบุญไปให้เขาบ้างนะ รักษาศีล ปฎิบัติกรรมฐาน จะแก้หนักเป็นเบาได้”
คำพูดเพียงเท่านี้เหมือนเป็น หนามบ่งหนองที่กำลังสุกเต็มที่ให้แตก เธอร้องไห้เหมือนอยากจะระบายอะไรสักอย่างให้ใครต่อใครฟัง ถึงความทุกข์ที่เธอได้รับ ตลอดระยะเวลาของการทำแท้ง การทำให้คนๆหนึ่งที่กำลังจะเกิด ตาย (ซึ่งทางพุทธศาสนาสอนว่า การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นสุดแสนจะยากมากๆๆ) มันบาปมากถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ถึงแม้จะได้ร่ำเรียนมาจากรั้ววัดมาช้านาน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเองก็ไม่เคยรู้นั่นก็คือ ทำไมผลกรรมของการทำแท้ง จึงทำให้คนๆหนึ่ง ได้รับวิบากกรรมมากถึงเพียงนี้ มันอาจจะดูเหลือเชื่อสำหรับใครบางคน ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้สังคมเสื่อมจากศีลธรรม
บาปกรรม ศีลธรรม จึงมีอยู่ในแค่ตำรา.........ที่คอยให้เด็กสังคมสมัยใหม่ได้แค่ท่องจำ
คุณเคยรู้สึกเหมือนสถานที่บางแห่ง คุณเคยไปมาแล้วไหม ทั้งที่สถานที่แห่งนั้นเราเพิ่งเคยไปเพียงครั้งแรก..........
คุณเคยมีความรู้สึกบางอย่าง เหมือนมันกำลังจะเกิดขึ้นจำเพาะหน้า แต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ ไหม?
คำถามเหล่านี้...ผมคงไม่มีคำตอบให้ ว่าทำไม ถึงเป็นเช่นนั้น
แต่ทำให้ผมขนลุกทุกครั้ง เมื่อหลับตา...นึกถึง
เป็นบางตัวอย่างที่แสดงให้เห้นว่า กรรมทำแท้งนั้น หนักหนาแค่ใหน
ฆ่าคนอื่น ยังพอว่า ฆ่าลูกตัวเอง ยิ่งหนักกว่าร้อยพันเท่า
ขอให้ทุกคนนำเรื่องนี้ เตือนตัวเอง เตือนสติ เตือนผู้คนอื่นคนรอบข้างไกล้ชิด
และตระหนักถึง กรรมชั่ว ที่มาจาก กรรมทำแท้งนะครับ